Category Archives: การทำธุรกิจ

เครื่องบันทึกเงินสด คืออะไร? เพราะอะไรทำไมต้องเครื่องบันทึกเงินสด

 

 

 

เครื่องบันทึกเงินสด เป็นอุปกรณ์เครื่องกลหรืออิเล็กทรอนิกส์ที่สำหรับใช้บันทึกการค้า พร้อมทั้งจัดตั้งลิ้นชักสำหรับสำรองตัวเงินไว้ด้วย เป็นเครื่องบวกลบคูณหารเลขประเภทแป้นเต็ม มีรูปร่างเป็นแป้นเลขหลายแถว จัดตามเลขตามแนวดิ่งจากเลข 1 ถึง 9 จำนวนแถวขึ้นอยู่กับกับจำนวนหลักที่ต้องการ สามารถบวก ลบ คูณ หารได้ในเครื่อง และมีบัตรแสดงรายการ 2 อย่าง ส่วนใดส่วนหนึ่งให้ลูกค้าสับเปลี่ยนใบเก็บเงิน อีกส่วนหนึ่งม้วนอยู่ภายในเครื่องแสดงหลักฐานในการรับสตางค์แต่ละครั้งไว้

เครื่องบันทึกเงินสดเหมาะกับผู้ที่ใช้งานลงทะเบียนเลขจำนวนที่มีจำนวนมากๆ ตัวอย่างเช่น การบันทึกรายการสินค้าในใบเสร็จรับเงินรับเงิน หรือการบันทึกรายการในใบกำกับภาษี หรือใช้รวมยอดบัญชีเงินสด เครื่องบันทึกเงินสดยังมีคุณสมบัติพิเศษอื่นๆ นอกเหนือจากเครื่องคำนานธรรมดาสามารถระบุข้อมูลการบวกลบคูณหารแต่ละแบบได้อย่างชัดแจ้งและวิเคราะห์รายการข้อมูลต่างๆได้ทันท่วงทีนอกจากนี้ยังมีระบบรักษาความปลอดภัย ระแวดระวังไม่ให้คนภายนอกที่ไม่ได้รับอนุญาตมาใช้เครื่องบันทึกเงินสด และนอกจากนี้ยังมีระบบรักษาความปลอดภัย ป้องกันไม่ให้บุคคลภายนอกที่ไม่ได้รับอนุญาตมาใช้เครื่องบันทึกเงินสดได้เครื่องบันทึกเงินสดจึงเป็นของออฟฟิศที่มีความสำคัญและขาดไม่ได้ต่อการทำงานของงานปัจจุบันอย่างยิ่ง แม้กระนั้น ในการเลือกซื้อเครื่องบันทึกเงินสด ก็สมควรสังเกตเลือกซื้อเครื่องมือให้ควรกับประเภทของการใช้งานและธุรกิจการค้าที่ปฏิบัติภารกิจ

หากพูดถึงคุณประโยชน์ของเครื่องบันทึกเงินสด ก็มีอยู่หลากหลายอย่างด้วยกัน อาทิเช่น ประหยัดเวลา ประหยัดแรงงาน สามารถบวกลบคูณหารมูลค่าสินค้าและเงินทอนได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ และสะดวกในการตรวจสอบ เพิ่มศักยภาพในการรักษาเงินสดอย่างเสถียร ประหยัดเวลาในการคิดเลขรายการสินค้า และจดใบเสร็จรับเงินรับเงิน ด้วยเหตุว่าเครื่องบันทึกเงินสดจะมีบัตรแสดงรายการให้แก่ผู้ซื้อแทนใบเสร็จรับเงินทุ่นค่าใช้จ่าย และก็มีระบบรักษาความปลอดภัย ปกปักรักษามิให้คนนอกหรือผู้มิได้รับอนุญาตมาใช้เครื่องบันทึกเงินสดได้

ปัญหามลพิษและสิ่งแวดล้อมในปัจจุบันมีความสำคัญต่อทุกประเทศทั่วโลก

12

มลพิษอันเกิดจากการกระทำของมนุษย์ได้แก่การตัดไม้ทำลายป่าการใช้สารเคมีในทางอุตสาหกรรม และการเผาไหม้เชื้อเพลิงโดยเฉพาะพวกถ่านหินน้ำมันเชื้อเพลิงก่อให้เกิดแก๊สต่าง ๆอาทิเช่นคาร์บอนไดอ๊อกไซด์มีเทนไนตรัสอ๊อกไซด์โคลโรฟลูโอโรคาร์บอนเป็นต้นซึ่งเป็นแก๊สที่ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงต่ออุณหภูมิของโลกโดยที่แก๊สเหล่านี้จะสะสมกันอยู่ในบรรยากาศทำให้อากาศร้อนอบอ้าวเหมือนอยู่ในเรือนกระจก คาร์บอนไดอ๊อกไซด์นับเป็นแก๊สที่ทำให้เกิดความร้อนในโลกได้มากที่สุดว่ากันว่ามีถึงครึ่งของแก๊สทั้งหมดที่ทำให้โลกร้อนที่ทำให้เกิดภาวะเรือนกระจก ส่วนใหญ่เกิดจากจากเผาเชื้อเพลิงจำพวกถ่านหินและน้ำมันต่อมาก็เป็นพวกสารเคมีจำพวกโคลโรฟลูโอโรคาร์บอนร้อยละ 20 มีเทนร้อยละ 1.5 นอกนั้นก็เป็นโดยการตัดไม้ทำลายป่า

นักวิทยาศาสตร์พยากรณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยจะสูงกว่ายุคใดในประวัติศาสตร์กล่าวคือ 1.5o ถึง 4.5o ใน 40 ปีข้างหน้า และจะเป็นผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในลมฟ้าอากาศกระแสน้ำในมหาสมุทร และน้ำแข็งที่ปกคลุมบนพื้นโลกมากขึ้นระดับน้ำทะเลอาจขึ้นถึง 0.5 ถึง 2.0 เมตรสารเคมีโดยเฉพาะโคลโรฟลูโอโรคาร์บอน เป็นตัวสำคัญที่ทำลายชั้นโอโซนทำให้แสงอุลตราไวโอเล็ตจากดวงอาทิตย์สามารถส่องลงมาบนพื้นโลกได้มากอันเป็นอันตรายต่อชีวิตของมนุษย์สัตว์และพืชสารชนิดนี้ปกติใช้ในการอุตสาหกรรมหลายอย่างเช่นในการทำความเย็นในเครื่องเย็น และเครื่องปรับอากาศเป็นตัวทำลายในการชำระล้างเครื่องอีเลคทรอนิคเป็นตัวช่วยฉีดในกระป๋องผลิตภัณฑ์ที่ใช้พ่นฉีด และเป็นสารที่ใช้ในกรรมวิธีทำภาชนะบรรจุ และวัตถุที่ใช้ทำฉนวน

โดยที่ คลอโรฟลูโอโรคาร์บอนเป็นแก๊สที่สำคัญที่ทำให้เกิดบรรยากาศเรือนกระจกมากที่สุดผู้แทนจากหลายประเทศรวมทั้งองค์การเอกชนที่มีความห่วงใยในอนาคตของโลกได้ประชุมกันและทำสนธิสัญญาตกลงที่เฮลซิงกิเรียกว่าแถลงการณ์เฮลซิงกิให้เลิกใช้สารคลอโรฟลูโอโรคาร์บอนในปี ค.ศ. 2543 หลังจากแถลงการณ์นั้นก็ได้มีการประชุมแก้ไขสนธิสัญญาเพื่อเลิกลดการใช้คลอโรฟลูโอโรคาร์บอนให้เร็วขึ้นกว่าเดิม และใช้สารอื่นทดแทนให้มีการนำเทคโนโลยีและข้อมูลทางวิทยาศาสตร์ให้ทางประเทศกำลังพัฒนานำไปปฏิบัติเพื่อลดการใช้ คลอโรฟลูโอโรคาร์บอน ด้วยเนื่องจากมีรายงานจากองค์การป้องกันสิ่งแวดล้อมสหรัฐว่า 1 ใน 4 ของแก๊สที่ทำให้เกิดบรรยากาศเรือนกระจกปัจจุบันมาจากประเทศทางเอเซียโดยเฉพาะประเทศจีนญี่ปุ่น และอินเดียจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงประเภทถ่านหินลิกไนท์และน้ำมัน และจะมีปริมาณมากขึ้นตามการพัฒนาของเศรษฐกิจและความหนาแน่นของประชากร

การลดการใช้ทรัพยากรต่างๆภายในบริษัทถือเป็นแนวทางอย่างแรกที่ผู้ประกอบการควรจะนำมาใช้บริหารการจัดการ

4

จากสภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นในปัจจุบันจนกลายสภาพมาเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วโลกนั้น ผู้คนต่างตระหนักถึงภัยอันตรายที่กำลังคืบคลานมาสู่มวลมนุษยชาติทีละก้าวอย่างมิอาจหลีกเลี่ยงได้ ซึ่งจากกระแสดังกล่าวทำให้ผู้คนได้เริ่มกลับมาให้ความสนใจในเรื่องของการช่วยกันอนุรักษ์สภาพแวดล้อมไว้ให้คงอยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ต่อไปมากที่สุด

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแวดวงของบริษัทที่ประกอบกิจการทางด้านธุรกิจยิ่งต้องใส่ใจในเรื่องดังกล่าวให้มากเป็นพิเศษ เพราะต้องเข้าใจว่าสาเหตุสำคัญที่ทำให้มลภาวะในด้านต่างๆย่ำแย่อย่างเช่นที่เป็นอยู่ในปัจจุบันนั้น สาเหตุส่วนใหญ่เกิดมาจากการทำธุรกิจแทบจะทั้งสิ้น ธุรกิจต่างๆจึงต้องเร่งทำความเข้าใจและใส่ใจในวิธีการช่วยรักษาสภาพแวดล้อมให้มากกว่านี้ก่อนที่จะได้รับผลกระทบจากสังคมตามมา ซึ่งจะกลายมาเป็นสภาพที่ยากจะแก้ไขและสร้างความเชื่อมั่นให้กลับคืนมาได้ โดยวิธีการที่จะช่วยให้บริษัทของผู้ประกอบการมีส่วยช่วยลดภาวะโลกร้อนและมลพิษในด้านต่างๆมีดังต่อไปนี้

การลดการใช้ทรัพยากรต่างๆภายในบริษัทถือเป็นแนวทางอย่างแรกที่ผู้ประกอบการควรจะนำมาใช้บริหารการจัดการภายในบริษัท โดยควรเริ่มจากการใช้ทรัพยากรต่างๆให้เกิดคุณค่าและคุ้มค่ากับราคามากที่สุดก่อน เช่น การนำกระดาษเอกสารมาใช้ทั้ง 2 หน้า ไม่ควรเว้นว่างไว้ในหน้าใดหน้าหนึ่ง ก็เป็นหนึ่งในวิธีการลดการใช้ทรัพยากรอย่างสิ้นเปลืองได้

นอกเหนือจากจะช่วยลดการตัดต้นไม้มาทำกระดาษแล้วยังช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของบริษัทในการจัดซื้อกระดาษเอกสารต่างๆด้วย หรือทางเลือกในปัจจุบันในการทำงานเอกสารบางอย่างก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้กระดาษอีกต่อไป อาจจะใช้การจัดเก็บข้อมูลให้อยู่ในรูปของหน่วยความจำและไฟล์ประเภทต่างๆได้ ซึ่งนั่นคือทางเลือกที่น่าสนใจมากอีกทางหนึ่งของบริษัทที่ต้องการจะก้าวเดินไปเป็น Smart Business ในอนาคต

การเลือกใช้วัสดุหรืออุปกรณ์ที่สามารถนำมารีไซเคิลได้ภายในออฟฟิศและธุรกิจของทางบริษัทคือทางออกอย่างหนึ่งที่ช่วยลดภาวะโลกร้อนและการเกิดมลภาวะของขยะอันไม่พึงประสงค์ได้ เช่น ผู้ประกอบการสามารถใช้ระบบการส่งอีเมล์ มาใช้แทนการส่งจดหมายของแต่ละแผนกภายในองค์กร

ถ้าบริษัทของผู้ประกอบการดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการค้าขายที่จำเป็นต้องใช้วัสดุภัณฑ์บรรจุสินค้าให้กับผู้บริโภคที่มาซื้อก็ควรทำการรณรงค์ให้ผู้บริโภคนำถุงผ้ามาใช้ใส่แทนถุงพลาสติกโดยอาจจะให้ส่วนลดกับลูกค้าก็ได้ ในกรณีที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการใช้วัสดุที่เป็นถุงพลาสติกได้จริงๆ ก็ควรเลือกใช้ถุงพลาสติกที่มีคุณภาพสูงและสามารถย่อยสลายเองได้

แนะนำให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับการทำธุรกิจ

บ่อยครั้งที่คำว่า “ไม่มีเงิน” ถูกใช้เป็นข้ออ้างที่สกัดการเริ่มต้นทำธุรกิจเป็นของตัวเอง เป็นต้นว่าไม่มีทุนบ้าง ไม่มีแหล่งทุนบ้าง และทำให้หลายคนเลือกพับเก็บความคิดที่จะเริ่มต้นธุรกิจเอาไว้ แต่ในความจริงแล้วธุรกิจหลายรูปแบบใช้เงินทุนในการเริ่มตั้งกิจการไม่มากเลย โดยจุดสำคัญในการเริ่มต้นธุรกิจน่าจะอยู่ที่การสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดีและตรงความต้องการของลูกค้า มีแนวทางการบริหารและการตลาดที่แข็งแรงขึ้นมาให้ได้ก่อน หลังจากที่เริ่มมีโมเดลธุรกิจที่ชัดเจนและมีจุดเด่นน่าสนใจแล้วการจะออกไปหาเงินทุนเพิ่มเติมเพื่อต่อยอดให้ธุรกิจเติบโตต่อเนื่องก็น่าจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นและการทำธุรกิจก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้สูงขึ้น

เมื่อผ่านจุดตั้งต้นธุรกิจมาได้แล้ว จึงถึงเวลาเริ่มมองหาทุนเพื่อขยายกิจการและเร่งการผลิตให้ทันต่อการแข่งขันในตลาด แต่ด้วยความที่ธุรกิจยังอยู่ในจุดเริ่มต้น ยังไม่เป็นที่รู้จัก จึงเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะระดมทุนด้วยการยื่นเสนอขายหุ้นในตลาด อย่างไรก็ดี ยังมีแหล่งทุนอื่นๆ ที่เข้าถึงได้และสามารถช่วยธุรกิจขนาดกลางและย่อมที่เพิ่มเริ่มต้นอยู่พอสมควร ตั้งแต่คนใกล้ตัวที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเราเช่นคุณพ่อคุณแม่ หรือแหล่งเงินทุนที่เป็นองค์กรอย่างธนาคารและนักลงทุน

สำหรับแหล่งทุนจากนักลงทุนจะมีวัตถุประสงค์การให้ทุนที่ต่างจากธนาคาร กล่าวคือธนาคารจะได้ประโยชน์จากการให้สินเชื่อโดยเก็บดอกเบี้ยจากผู้ขอสินเชื่อเป็นงวดๆ ไป ในขณะที่นักลงทุนจะมุ่งหวังการครอบครองหุ้นหรือกรรมสิทธิ์ในบริษัท นั่นหมายความว่าสิ่งที่นักลงทุนจะได้รับจากการลงทุนในสักธุรกิจหนึ่งจึงต้องขึ้นอยู่กับการเติบโตและผลประกอบการของบริษัทเป็นหลัก ทำให้นักลงทุนมีอีกลักษณะที่แตกต่างจากธนาคาร คือมักจะเป็นผู้ให้ความรู้และแนวทางในการดำเนินธุรกิจ หรือบางรายอาจส่งคนจากทีมเข้ามาบริหารงานในธุรกิจ

โดยหลักๆ แล้วมีนักลงทุนอยู่ไม่กี่ประเภท ประเภทแรกคือนักลงทุนรายบุคคล หรือที่เรียกว่า angel investor และนักลงทุนระดับองค์กร venture capitals หรือที่เรียกกันบ่อยๆ ว่า VC ซึ่งที่จริงแล้วนักลงทุนทั้งสองประเภทนี้เป็นที่นิยมในบรรดาธุรกิจ startup ต่างประเทศเสียมาก และยังไม่ค่อยมีนักลงทุนประเภทนี้ในประเทศไทยมากนัก

สาระน่ารู้เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ

เมื่อขับขี่ยานพาหนะไปตามท้องถนนบ่อยครั้งที่จะต้องเจอผู้ประสบอุบัติเหตุ หลายครั้งรีบเร่งเครื่องขับผ่านไป ถือว่าธุระไม่ใช่ หรือขี้เกียจเป็นพยาน ซึ่งกำลังพลาดที่จะได้เป็นพลเมืองดีของสังคม เพราะเพียงแค่ฃจอดรถลงไปและช่วยเหลือเท่าที่จะทำได้อาจได้ช่วยชีวิตคน ๆ หนึ่งให้มีลมหายใจต่อไปได้สำหรับขั้นตอนการเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบอุบัติเหตุ ก่อนอื่นที่ต้องทำคือ ลงไปตรวจสอบดูว่ามีผู้บาดเจ็บหรือไม่ เคลียร์พื้นที่เกิดอุบัติเหตุให้มีความปลอดภัยมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่งข้อมูลขอความช่วยเหลือ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ นอกจากนี้ผู้ที่เข้าไปช่วยเหลือควรจะต้องศึกษาถึงวิธีการที่จะช่วยผู้ประสบภัยเบื้องต้นด้วย

1.ตรงไปช่วยเหลือผู้หมดสติในอันดับแรกทั้งนี้ตรงเข้าช่วยเหลือคนหมดสติรีบพลิกตัวเขาให้นอนตะแคงข้างจับศีรษะผู้หมดสติให้หงายไปข้างหลังให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้จากนั้นค่อย ๆ ดันมาข้างหน้าให้ศีรษะก้มลง
2.จัดทางเดินหายใจของผู้บาดเจ็บให้โล่งตรวจสอบลมหายใจ โดยสังเกตที่บริเวณด้านล่างของหน้าอกและบริเวณท้องขยับขึ้นลง แล้วใช้หูฟังบริเวณเหนือปากตรวจสอบการหายใจและสัมผัสลมหายใจที่ออกมาจากช่อง ปาก
3.ตรวจสอบลมหายใจและอัตราความถี่ของลมหายใจว่ายังปกติอยู่หรือไม่
4. เป่าลมเข้าปอดโดยวิธีปากต่อปากให้ฟื้นคืนชีพหรือทำการปั๊มหัวใจ
5.ทำการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บที่มีเลือดไหลออกมาโดยทำการห้ามเลือดทำความสะอาดบาดแผลหรือเคลียร์บริเวณบาดแผลให้เห็นชัดว่าเลือดออกมาจากจุดใดใช้นิ้วกดปากแผลลงไปใช้ผ้าพันแผลพันรอบ ๆ รัดให้แน่นและหากพบว่ามีเศษเหล็ก ไม้หรือแก้วอยู่ที่บิรเวณแผลให้ใช้ผ้าซับคลุมเศษวัสดุนั้น แล้วใช้ผ้าพันแผลให้รอบอย่าให้เศษวัสดุโผล่พ้นผ้าออกมา
6.พลิกตัวผู้บาดเจ็บที่หมดสตินอนตะแคงข้างเมื่อพบผู้บาดเจ็บนอนหงายนั้น จำเป็นต้องพลิกตัวเขานอนตะแคงข้าง ไปข้างใดก็ได้ ทางที่ดีควรพลิกตัวเขานอนตะแคงซ้าย
7.เคลื่อนย้ายผู้หมดสติให้เบาที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในการเคลื่อนผู้บาดเจ็บ ต้องคนช่วย 3 – 4 คน อย่าให้บริเวณคอหรือหลัง เกิดการบิดงอ ต้องให้คอและหลังเป็นเส้นตรง
8.ช่วยผู้บาดเจ็บที่ติดอยู่ในซากรถหากสามารถเอาตัวเขาออกมาได้อย่างง่าย ๆ ก็ควรทำ เพราะการช่วยเหลือเขาข้างนอกนะสะดวกกว่า
การช่วยชีวิตผู้ประสบอุบัติเหตุนี้ สามารถประยุกต์ไปใช้ในการช่วยเหลือกรณีอื่น ๆ ได้นอกเหนือจากอุบัติเหตุทางรถยนต์

การช่วยเหลือคนทุกข์ยากในสังคมเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดียิ่งขึ้น

เนื่องด้วยสภาพของสังคมไทยในปัจจุบัน ยังคงมีปัญหาด้านความไม่เท่าเทียมกันทางสังคมเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงการจัดบริการทางการศึกษา การประกอบอาชีพ การรับบริการทางด้านสาธารณสุข ซึ่งในการแก้ปัญหาดังกล่าว นอกเหนือจากจะเป็นบทบาทหน้าที่ความรับผิดชอบของภาครัฐที่ต้องให้ ความมุ่งมั่นและความสนใจในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้บรรเทาหรือลุล่วงไปแล้ว ภาคเอกชนในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของสังคมสามารถหยิบยื่นและให้ความช่วยเหลือเพื่อร่วมแก้ไขปัญหาเหล่านั้นด้วยเช่นกัน

ลักษณะของกิจการเพื่อสังคม
กิจการเพื่อสังคม มักมีลักษณะดังต่อไปนี้
1.ดำเนินงานเพื่อผลประโยชน์ทางสังคมหรือสิ่งแวดล้อม และมีแนวทางการหารายได้ด้วยตนเองเพื่อหล่อเลี้ยงการดำเนินงานอย่างยั่งยืน โดยที่มาของรายได้สามารถอยู่ในรูปแบบการขายผลิตภัณฑ์และ/หรือบริการ การระดมทุนโดยให้ผลตอบแทนแก่ผู้ลงทุน จนถึงการขอรับบริจาคหรือการสนับสนุนทางการเงินแบบให้เปล่าเหมือนองค์การสาธารณประโยชน์
2.เน้นการใช้นวัตกรรมเพื่อแก้ไขปัญหา นั่นคือการคิดค้นวิธีการใหม่ๆ ที่สามารถแก้ปัญหาที่เป็นเป้าหมายของการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้ผล ยั่งยืน และสามารถต่อยอดผลลัพธ์ได้ ตัวอย่างเช่น การให้เงินกู้ขนาดย่อมสำหรับแม่บ้านในบังกลาเทศเพื่อลงทุนสร้างกิจการของตนเอง โดย ธนาคารกรามีน ของมูฮัมหมัด ยูนูส, การสร้างปั๊มน้ำที่ใช้พลังงานจากเครื่องเล่นเด็กของบริษัท Playpumps ในประเทศแอฟริกาใต้
3.การดำเนินงานโดยอาศัยความร่วมมืออย่างกว้างขวาง เพื่อใช้ศักยภาพเฉพาะทางของหน่วยงานต่างๆ ในเครือข่ายเพื่อร่วมแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน

รัฐบาลของหลากหลายประเทศเห็นความสำคัญของกิจการเพื่อสังคม และมีนโยบายในการสนับสนุนกิจการเพื่อสังคม เช่นในประเทศอังกฤษ มีการก่อตั้งหน่วยงานชื่อ Office of the Third Sector (OTS) ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของสำนักคณะรัฐมนตรี โดย OTS มีนโยบายหลัก คือการผลักดันและสนับสนุนกิจการเพื่อสังคม และยังช่วยเหลือในด้านการให้ข้อมูลและคำปรึกษาที่ดี การเข้าถึงแหล่งเงินทุน และลดอุปสรรคในการทำงานร่วมกับภาคธุรกิจเอกชน นอกจากนี้ยังมีคณะทำงานเฉพาะกิจ Social Investment Task Force ซึ่งทำหน้าที่ให้คำแนะนำแก่รัฐบาลในเรื่องการขยายตัวของกองทุน Phoenix (กองทุนเพื่อเพิ่มศักยภาพของชุมชนโดยการกระตุ้นการลงทุนผ่านทางสังคมและธุรกิจ) การจัดตั้งการให้เครดิตทางภาษีของการลงทุนเพื่อชุมชน การให้ความช่วยเหลือของภาครัฐสู่กองทุนร่วมพัฒนาชุมชน และการสนับสนุนการพัฒนาทางด้านการเงินแก่ชุมชน

หุ้นบางตัวที่ธุรกิจมีความผันผวนกับระดับกำลังซื้อค่อนข้างสูง

ในระยะสั้นที่ผ่านมากองทุนได้เพิ่มสัดส่วนการถือเงินสดในพอร์ตให้มากขึ้น และมีการขายทำกำไรหุ้นบางตัวที่ราคาขึ้นมาเร็วมากออกไป ส่วนหุ้นบางตัวที่ธุรกิจมีความผันผวนกับระดับกำลังซื้อค่อนข้างสูงเราก็ไม่ได้ถือแล้ว สัดส่วนของหุ้นส่วนใหญ่ที่ถืออยู่ตอนนี้จึงมีความเป็น Defensive Stock มากขึ้น เช่น ค้าปลีกที่มีกระแสเงินสดสม่ำเสมอ หรือโรงไฟฟ้า และหมวดวัสดุก่อสร้างที่ได้รับผลดีจาก Theme urbanization เป็นต้น ซึ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมที่กำไรไม่น่าจะได้รับผลกระทบจากความผันผวนของเศรษฐกิจมากนัก เราก็เพิ่มสัดส่วนการถือมากขึ้นด้วยด้วยความที่ก่อนหน้านี้เราไม่ได้ถือหุ้นกลุ่มที่ถูกคาดหวังการเติบโตมากๆ และมี P/E สูงๆ จึงเชื่อว่าช่วงที่หุ้นขาลงกองทุนเราไม่น่าจะกระทบมาก และหุ้นบางตัวที่ถือก็ราคาลงมามากแล้วในช่วงก่อนหน้า เราจึงเชื่อว่าพอร์ตที่เราถือตอนนี้มีความปลอดภัยพอสมควรเมื่อเทียบกับตลาดแต่ Theme การลงทุนระยะยาวนั้นไม่ได้เปลี่ยน ไม่ว่าจะเป็น ‘บินแหลก บริโภคไม่อั้น’ หรือ ‘Light up your life, Protect your assets” เพราะว่า Theme เหล่านี้กินระยะเวลายาวนาน 5 ปี ถึง 10 ปี ซึ่งความผันผวนทางเศรษฐกิจช่วงสั้นๆ ระดับไตรมาสนั้นเกิดขึ้นได้ แต่การพัฒนาโครงสร้างประเทศหรือ Life Styles นั้นจะต่อเนื่องยาวนานกว่า เราจึงยังยึด Theme การลงทุนนี้ต่อไป

บินแหลก การขนส่งทางอากาศยังเติบโตได้ดี จำนวนนักท่องเที่ยวมายังประเทศไทยทำสถิติสูงสุดตลอดกาล และยังมีแนวโน้มขยายตัวได้ดี แม้ภาวะเศรษฐกิจโลกจะชะลอตัว ทำให้ธุรกิจภาคบริการมีส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจมากขึ้น บริโภคไม่อั้น แนวโน้ม Urbanization นั้นเป็นกระบวนการที่เกิดขึ้นนานต่อเนื่องนับ 10 ปี ถึงแม้ระยะสั้นจะมีการที่กำลังซื้อชะลอตัวลงบ้างจากปัจจัยอะไรก็แล้วแต่ แต่ระยะยาวแล้วแนวโน้มรายได้ประชาชนจะเพิ่มขึ้น และกระจายตัวมากขึ้นLight up your life หุ้นกลุ่มผลิตไฟฟ้าและพลังงานทดแทนเป็นหุ้นกลุ่ม Defensive ที่ผลประกอบการไม่ผันผวนตามเศรษฐกิจมากนัก และมีโอกาสเติบโตตามการเติบโตของเศรษฐกิจของประเทศProtect your assets  หุ้นกลุ่มประกันชีวิตจะมีโอกาสเติบโตได้ดีในระยะยาว เพราะคนไทยยังมีการทำประกันชีวิตค่อนข้างน้อยเมื่อเทียบกับต่างประเทศ และเมื่อคนมีกำลังซื้อมากขึ้นก็ต้องหาซื้อผลิตภัณฑ์ทางการเงินพื้นฐานก่อน ที่สำคัญ Theme การลงทุนของเราในปีนี้ก็เน้น Protect your assets เช่นเดียวกันด้วยแนวทางต่างๆ ที่เน้นความปลอดภัย ไม่ลงทุนในธุรกิจที่เสี่ยงๆ ผสมกับการเน้นลงทุนในบริษัทที่มีโอกาสให้ผลตอบแทนลงทุนที่ดี จึงเชื่อว่าในระยะยาวจะให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าตลาดโดยเฉลี่ย แม้บางช่วง บางปีอาจจะแพ้ตลาดในระยะสั้นๆ บ้าง แต่โดยรวมระยะยาวเราเชื่อมั่นว่าจะดีกว่า

คำแนะนำในการเลือกรูปแบบของการประกอบธุรกิจให้ประสบความสำเร็จ


การเลือกรูปแบบองค์กรธุรกิจแต่ละประเภทมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันอยู่หลายประการ ผู้ประกอบการจึงควรจะพิจารณาให้รอบคอบ จึงขอแนะนำเทคนิคที่จะใช้ในการเลือกรูปแบบองค์กรธุรกิจดังนี้

1. พิจารณาดูว่ามีการจัดตั้งและผลการจัดตั้งธุรกิจนั้นยุ่งยากลำบากเพียงใดเช่น หากท่านจะประกอบธุรกิจง่ายๆ เล็กๆ ก็อาจจะไม่ต้องจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทแต่จัดตั้งเป็นธุรกิจเจ้าของคนเดียว หรือเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญง่ายๆ ก็ได้
2. พิจารณาดูถึงต้นทุนที่จะต้องระดมมาในการประกอบการ ถ้าหากว่าท่านเห็นว่าการจะประกอบการต้องใช้เงินทุนเป็นจำนวนมากก็อาจจะต้องเลือกรูปแบบการจัดตั้งในรูปแบบของบริษัท จำกัด
3. พิจารณาถึงความรู้ความสามารถของประสบการณ์ของตนเองในฐานะของผู้ลงทุน และหากท่านจะต้องระดมผู้ที่มีความรู้ ความสามารถเข้ามาประกอบกิจการ ท่านก็อาจจะต้องจัดตั้งในรูปแบบห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือ บริษัทจำกัดมากกว่าจะประกอบธุรกิจในรูปแบบของผู้ประกอบการคนเดียว
4. พิจารณาในแง่การบริหารและการควบคุมกิจการ ว่า เมื่อจัดตั้งองค์กรธุรกิจไม่ว่าจะเป็นบริษัทจำกัด ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือ กิจการคนเดียวนั้น จะสามารถบริหารงานและควบคุมกิจการได้หรือไม่ นอกจากนั้นอาจจะพิจารณาดูว่า การจัดตั้งบริษัทจำกัด เพื่อเป็นประโยชน์ในด้านการควบคุมและรวบรวมทรัพย์สินของครอบครัวไว้เป็นหน่วยเดียวกันหรือไม่
5. พิจารณาถึงสถาพของธุรกิจโดยทั่วไปว่ากิจการที่จะลงทุนนั้น ควรจะเป็นรูปแบบองค์กร ธุรกิจแบบใด จะมีระยะเวลาประกอบธุรกิจนานเท่าไร จะสร้างความเชื่อถือให้กับองค์กรธุรกิจที่เกี่ยวข้อง และจะสามารถขยายกิจการออกไปได้หรือไม่
6. พิจารณาถึงความรับผิดชอบในบรรดาหนี้สินอันเกิดจากการประกอบการ ข้อนี้นับว่าเป็นข้อสำคัญอย่างยิ่งของผู้ประกอบการการประกอบธุรกิจแบบห้างหุ้นส่วนมักเป็นที่นิยมมาก โดยผู้ประกอบการอาจไม่ทราบว่า หุ้นส่วนผู้จัดการหรือ หุ้นส่วนสามัญนั้น จะต้องมีความรับผิดอย่างไม่จำกัด หรือแม้มีการประกอบกิจการคนเดียว หากมีหนี้สิ้นก็ต้องรับผิดอย่างไม่จำกัด ซึ่งนับว่าเป็นอันตรายอย่างมาก แต่ในทางตรงข้ามการเลือก ประกอบธุรกิจโดยเป็นบริษัทจำกัด ความรับผิดชอบนั้นจำกัดเฉพาะหุ้นที่ลงทุนไปแล้วเท่านั้น
7. พิจารณาว่าระยะเวลาและความต่อเนื่องในการประกอบกิจการนั้นตรงตามจุดประสงค์ของกิจการเป็น ชั่วครั้งชั่วคราว หรือตลอดไป เพราะเหตุว่าถ้าหากต้องการประกอบกิจการเพียงช่วงระยะเวลาใดเวลาหนึ่งโดยเฉพาะ ก็อาจจะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องจดทะเบียนเป็นบริษัทจำกัด หรือห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล เพราะว่าการเลิกกิจการนั้นยากกว่าการจดทะเบียนเสียอีก
8. พิจารณาเกี่ยวกับวิธีการแบ่งปันผลกำไรจากการประกอบการโดยจะต้องพิจารณาว่าท่านมีความประสงค์จะแบ่งปันผลกำไรอย่างไร เพราะหากว่ามีการจัดตั้งเป็นบริษัทจำกัดการจะแบ่งปันผลกำไรนั้น คงมีข้อจำกัดทางกฎหมาย และจะต้องมีการตั้งทุนสำรองไว้ตามกฎหมายอีก
9. พิจารณาว่าในอนาคตนั้นจะสามารถเปลี่ยนแปลงหรือขยายรูปแบบองค์การธุรกิจเพิ่มขึ้นหรือเพิ่มเติมหรือไม่
10.พิจารณาว่า ภาระภาษีขององค์กรธุรกิจ แต่ละแบบเป็นอย่างไร แบบใดจะเสียภาษีต่ำที่สุด

การตัดสินใจจะเลือกองค์กรธุรกิจแบบใดในการประกอบธุรกิจนอกเหนือจากความรับผิดชอบแล้วต้องคำนึงถึงภาระภาษีและความเป็นไปได้ทางธุรกิจ

แนะนำให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับเงินทุนในการทำธุรกิจ

บ่อยครั้งที่คำว่า “ไม่มีเงิน” ถูกใช้เป็นข้ออ้างที่สกัดการเริ่มต้นทำธุรกิจเป็นของตัวเอง เป็นต้นว่าไม่มีทุนบ้าง ไม่มีแหล่งทุนบ้าง และทำให้หลายคนเลือกพับเก็บความคิดที่จะเริ่มต้นธุรกิจเอาไว้ แต่ในความจริงแล้วธุรกิจหลายรูปแบบใช้เงินทุนในการเริ่มตั้งกิจการไม่มากเลย โดยจุดสำคัญในการเริ่มต้นธุรกิจน่าจะอยู่ที่การสร้างผลิตภัณฑ์ที่ดีและตรงความต้องการของลูกค้า มีแนวทางการบริหารและการตลาดที่แข็งแรงขึ้นมาให้ได้ก่อน หลังจากที่เริ่มมีโมเดลธุรกิจที่ชัดเจนและมีจุดเด่นน่าสนใจแล้วการจะออกไปหาเงินทุนเพิ่มเติมเพื่อต่อยอดให้ธุรกิจเติบโตต่อเนื่องก็น่าจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นและการทำธุรกิจก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้สูงขึ้น

เมื่อผ่านจุดตั้งต้นธุรกิจมาได้แล้ว จึงถึงเวลาเริ่มมองหาทุนเพื่อขยายกิจการและเร่งการผลิตให้ทันต่อการแข่งขันในตลาด แต่ด้วยความที่ธุรกิจยังอยู่ในจุดเริ่มต้น ยังไม่เป็นที่รู้จัก จึงเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะระดมทุนด้วยการยื่นเสนอขายหุ้นในตลาด อย่างไรก็ดี ยังมีแหล่งทุนอื่นๆ ที่เข้าถึงได้และสามารถช่วยธุรกิจขนาดกลางและย่อมที่เพิ่มเริ่มต้นอยู่พอสมควร ตั้งแต่คนใกล้ตัวที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเราเช่นคุณพ่อคุณแม่ หรือแหล่งเงินทุนที่เป็นองค์กรอย่างธนาคารและนักลงทุน

ธนาคารถือเป็นแหล่งเงินทุนอันดับต้นๆ ที่เรามักนึกถึง เนื่องจากพบได้ทั่วไปและมีโปรโมชั่นออกมาเป็นจำนวนมาก แต่การขอสินเชื่อจากธนาคารก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเสียทีเดียว เพราะธนาคารก็จะต้องพิจารณาความน่าเชื่อถือและโอกาสในการเติบโตของธุรกิจก่อนจึงจะอนุมัติให้สินเชื่อ โดยแผนส่วนใหญ่จะกำหนดคุณสมบัติของผู้กู้ต้องมีประสบการณ์ในด้านธุรกิจที่เกี่ยวข้องมาแล้ว 1-3 ปี ซึ่งน่าจะเป็นหลักประกันว่าผู้ประกอบการรู้จักธุรกิจนั้นๆ ดีในระดับหนึ่ง อีกทั้งหลายธนาคารก็มีข้อบังคับว่าผู้ประกอบการจะต้องนำเสนอแผนธุรกิจที่ชัดเจนและเป็นไปได้ก่อนการขออนุมัติสินเชื่อด้วย ดังนั้นการกู้ผ่านธนาคารอาจเหมาะกับเจ้าของกิจการที่ดำเนินงานมาสักระยะเกิน 1 ปีขึ้นไป ซึ่งจุดประสงค์ของการให้สินเชื่อก็เพื่อเพิ่มความคล่องตัวของเงินทุนหมุนเวียนและเพื่อการขยายตัวของกิจการ

เมื่อเราตัดสินใจจะกู้เงินจากธนาคารแล้ว เราต้องศึกษาในรายละเอียดว่าในแต่ละแผนกำหนดให้ต้องเตรียมนำเสนออะไรบ้าง อาทิ คนค้ำประกัน หรือเครื่องค้ำประกันอื่นๆ เช่น สิ่งปลูกสร้าง สัญญาเช่าอาคาร แผนพัฒนาธุรกิจ เป็นต้น และธนาคารส่วนใหญ่มักขอดูเอกสารสำคัญของบริษัท เช่น หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท เอกสารภาษี ซึ่งการเตรียมการให้พร้อมก็เป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้ธนาคารอีกทางหนึ่ง

แต่ทั้งนี้ไม่ว่าจะหาทุนด้วยการขอสินเชื่อธนาคารหรือขอทุนจากนักลงทุน หรือแม้แต่จากคนรู้จักที่มีความหวังดีต่อเราก็ตาม สิ่งที่เราควรทำคือต้องรักษามารยาทในการดำเนินการขอความช่วยเหลือ ตั้งแต่นำเสนอโครงการอย่างตั้งใจและมุ่งมั่น ยินดีตอบข้อซักถาม ต้องประเมินสถานการณ์อย่างเป็นกลางและรับฟังสิ่งที่ผู้อื่นพูดอย่างตั้งใจเสมอ รวมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมลงทุนมีส่วนแสดงความคิดเห็นด้วย สิ่งเหล่านี้เป็นพื้นฐานของความสำเร็จในการหาทุนและการทำธุรกิจด้วย

การเริ่มต้นในการลงทุนช่วยเหลือทางธุรกิจทั้งของรัฐและองค์กรเอกชน

เมื่อผู้ประกอบการไทยต้องการที่จะเริ่มลงทุนทำธุรกิจในแคลิฟอร์เนีย ผู้ลงทุนสามารถหาข้อมูลประกอบการตัดสินใจจากแหล่งข้อมูลที่มีมากมาย ทั้งของรัฐและองค์กรเอกชน อาทิ Governor’s Office of Economic Delvelopment (GoED), U.S. Small Business Administration (SBA), Small Business Development Centers (SBDC), และ California Association for Local Economic Development (CALED) เป็นต้น การเริ่มต้นดำเนินธุรกิจต้องประกอบด้วยข้อมูล และการตัดสินใจที่สำคัญทั้งด้านการเงินและด้านกฎหมาย แนวทางการเริ่มต้นธุรกิจในรัฐแคลิฟอร์เนียนี้ถือเป็นข้อมูลเบื้องต้นเพื่อให้ความรู้และรายละเอียดต่อผู้ประกอบการเพื่อเตรียมตัวในการบริหารและจัดการธุรกิจในแคลิฟอร์เนีย

ผู้ประกอบการควรใช้เวลาในการสำรวจข้อมูล ประเมินสภาพธุรกิจและเป้าหมายของการลงทุน เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสของความสำเร็จ โดยใช้ข้อมูลอย่างรอบด้านเพื่อสร้างแผนธุรกิจที่มีความถูกต้องและมีประสิทธิภาพ แผนธุรกิจจะช่วยให้ผู้ประกอบการดำเนินธุรกิจไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ กระบวนการของการพัฒนาแผนธุรกิจจะช่วยให้ผู้ประกอบการมองเห็นถึงประเด็นต่างๆ ที่ผู้ลงทุนอาจมองข้ามไป แผนธุรกิจจะเป็นเครื่องมือสำคัญที่ผู้ประกอบการจะใช้เพื่อทำให้ธุรกิจได้กำไรและสามารถใช้เป็นเครื่องมือในการประเมินถึงผลสำเร็จของการดำเนินธุรกิจได้อีกทางหนึ่งด้วยผู้ลงทุนควรใช้ประโยชน์จากหลายองค์กรที่บริการให้คำปรึกษาและโครงการฝึกอบรมธุรกิจที่มีอยู่ทั่วไป ตั้งแต่โครงการฝึกอบรมที่เสียค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อย ไปจนถึงการให้คำปรึกษาโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด องค์กรที่ให้คำปรึกษาดังกล่าวสามารถช่วยผู้ประกอบการหาแหล่งเงินทุน รวมถึงลู่ทางเพื่อขยายธุรกิจได้

ธุรกิจทุกประเภทต้องการเงินทุนเพื่อการเริ่มกิจการ แหล่งเงินทุนต่างๆ อาทิ จากบัญชีเงินฝาก การจำนองบ้าน หรือจากเพื่อนและครอบครัว ปัญหาสำคัญส่วนใหญ่ของผู้ลงทุนก็คือจะทำอย่างไรเพื่อหาแหล่งเงินทุนเพื่อกู้ยืมในการทำธุรกิจสำหรับผู้ที่ไม่มีเงินลงทุนเพียงพอ ผู้ประกอบการธุรกิจสามารถหาแหล่งเงินทุนโดยเริ่มตั้งแต่จากรัฐบาลกลาง รัฐบาลแคลิฟอร์เนีย ไปจนถึงรัฐบาลท้องถิ่นที่มีโครงการให้ความช่วยเหลือด้านการเงินสำหรับผู้ต้องการเริ่มทำธุรกิจเมื่อเริ่มต้นธุรกิจ ผู้ลงทุนต้องตัดสินใจว่าจะดำเนินธุรกิจของตนในรูปแบบหรือลักษณะใด เช่น การเป็นเจ้าของเพียงคนเดียว นิติบุคคล หรือ ห้างหุ้นส่วน ซึ่งรูปแบบธุรกิจนี้จะเป็นตัวบ่งชี้ถึงจำนวนของเอกสารที่คุณจะต้องยื่นต่อรัฐบาลเพื่อแสดงถึงความรับผิดชอบของผู้ประกอบการที่แตกต่างกันไปในแต่ละประเภทรูปแบบธุรกิจการลงทุน และกฎระเบียบการเสียภาษีต่อรัฐที่ผู้ประกอบการจะต้องจ่าย

การแสดงน้ำใจและช่วยเหลือกันของคนในสังคม

บุคคลจะเปลี่ยนความคิดจากการปฏิเสธการช่วยเหลือผู้อื่น มาเป็นให้ความช่วยเหลือผู้อื่นเมื่อได้รับการกระตุ้นความรู้สึกอย่างเหมาะสม เช่น เมื่อเห็นผู้อื่นประสบปัญหาแล้วรู้สึกอยากช่วย คนส่วนใหญ่ที่ตัดสินใจบริจาคเลือดไม่ได้เกิดจากความเต็มใจในครั้งแรก แต่เมื่อเห็นผู้อื่นบริจาคเลือดก็รู้สึกดี และอยากทำตามบ้าง จะเห็นได้ว่าการแสดงน้ำใจและช่วยเหลือกันและกันของคนในสังคม เป็นพฤติกรรมเลียนแบบประเภทหนึ่งที่ยิ่งพบเห็นมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งกระตุ้นให้ทำตามมากเท่านั้น การแสดงน้ำใจต่อกันเป็นสิ่งที่สำคัญมาในสังคมปัจจุบันนี้ และควรปลูกฝังเรื่องนี้ให้กับบุตรหลาน เด็กและเยาวชน ตลอดจนคนใกล้ชิด เริ่มจากคนใกล้ตัว

การอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสงบสุข

จำเป็นจะต้องเป็นผู้มีน้ำใจ มีไมตรีต่อเพื่อนมนุษย์และสรรพสิ่ง และความมีน้ำใจเป็นสิ่งที่เด็กทุกคนสามารถทำได้ ด้วยการเอาใจเขามาใส่ใจเรา คิดถึงผู้อื่น และแสดงต่อผู้อื่นเหมือนที่ต้องการให้คนอื่นแสดงต่อตนเอง สามารถทำดีต่อผู้อื่นได้ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เป็นผู้ให้มากกว่าที่จะเป็นผู้รับ แสดงน้ำใจกับคนรอบข้าง เสียสละกำลังทรัพย์ สติปัญญา กำลังกาย และเวลา ให้แก่ผู้เดือดร้อน การเป็นคนมีน้ำใจจะทำให้เรามีจิตใจที่ดีงาม เบิกบาน แจ่มใส ผิวพรรณผ่องใส มีมิตรสหายมาก ใครก็อยากคบหาสมาคมด้วย เพราะความมีน้ำใจแสดงถึงความมีเมตตากรุณาต่อเพื่อนมนุษย์ ชีวิตก็ย่อมพบแต่ความสุข

การเข้ามามีบทบาทเป็นองค์กรช่วยเหลือสังคม ผ่านทางกิจกรรมที่ทำมาอย่างต่อเนื่อง เพราะเล็งเห็นถึงผลประโยชน์ส่วนรวมเป็นหลัก จะต้องพิจารณาก่อนว่าอะไรคือสิ่งที่สังคมต้องการ สิ่งใดที่ทำไปแล้วเป็นประโยชน์แก่องค์รวมของประเทศ และพี่น้อง ทั้งต้องทำให้เกิดการเท่าเทียมกันไม่ว่าจะเป็นการทำธุรกิจและการอยู่ร่วมกับสังคมหรือชุมนุมชนนั้นๆ การดำเนินงานของกิจการเพื่อสังคมที่มุ่งเน้นเป้าหมายทางสังคม สิ่งแวดล้อม และการเงินไปพร้อมๆกัน เช่น การสร้างรายได้นั้นมีขึ้นเพื่อเพิ่มผลประโยชน์ของสังคมหรือสิ่งแวดล้อม แทนที่จะเป็นผลประโยชน์ของบริษัทหรือผู้ถือหุ้นเหมือนกิจการทั่วไป

ความมีน้ำใจนั้นตรงกันข้ามความเห็นแก่ตัว

ขณะที่คนเห็นแก่ตัวมักจะคิดแต่ประโยชน์ส่วนตัวมาก่อน แต่แน่นอนที่คนมีน้ำใจจะคิดถึงประโยชน์ของส่วนรวมบ้าง และความมีน้ำใจก็ยังตรงกันข้ามกับความอิจฉาริษยา คนที่อิจฉาริษยาคนอื่นย่อมปรารถนาที่จะเห็นความล้มเหลวของผู้ที่ได้ดีกว่า แต่คนมีน้ำใจนั้นเมื่อเห็นคนอื่นได้ดีกว่าจะมีมุทิตา และจะแสดงความยินดีด้วยอย่างจริงใจ ผู้มีน้ำใจจะนึกถึงผู้อื่นและจะพยายามช่วยผู้อื่นที่ด้อยโอกาสกว่า ผู้มีน้ำใจจึงเป็นที่รักและต้องการของคนทั่วไป และเป็นคนมีคุณค่าต่อสังคม และที่สำคัญพวกเขาเหล่านั้นก็จะเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จในการดำเนินชีวิตอย่างแน่นอน

กองทุนความช่วยเหลือเพื่อเพิ่มศักยภาพของชุมชนโดยการกระตุ้นการลงทุนผ่านทางสังคมและธุรกิจ

11

กิจการเพื่อสังคมคือหน่วยงานที่ดำเนินงานโดยใช้ยุทธศาสตร์แบบกลไกตลาดเพื่อเป้าหมายทางสังคมหรือสิ่งแวดล้อม การดำเนินงานของกิจการเพื่อสังคม มุ่งเน้นเป้าหมายทางสังคม สิ่งแวดล้อม และการเงินไปพร้อมๆ กัน หรือที่เรียกว่า Triple Bottom Line โดยเป้าหมายทางการเงิน เช่นการสร้างรายได้นั้น มีขึ้นเพื่อเพิ่มผลประโยชน์ของสังคมหรือสิ่งแวดล้อม แทนที่จะเป็นผลประโยชน์ของบริษัทหรือผู้ถือหุ้นเหมือนกิจการทั่วไป กิจการเพื่อสังคม ต่างจากความรับผิดชอบทางสังคมเชิงบรรษัท (CSR) ตรงที่กิจการเพื่อสังคมมีเป้าหมายทางสังคมหรือสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก ในขณะที่ CSR มักจะเป็นกิจกรรมหรือโครงการเพื่อสังคมของกิจการที่แสวงหากำไรตามปกติ

กิจการเพื่อสังคมเกิดขึ้นจากแนวคิดที่ว่าเมื่อสังคมก้าวหน้า ขยายขนาด และมีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้น ปัญหาสังคมและสิ่งแวดล้อมจึงเกิดขึ้นตามมาโดยทวีความซับซ้อน หลากหลาย และความรุนแรงเช่นเดียวกัน จนยากที่หน่วยงานภาครัฐจะรับมือได้ทั้งหมด ในขณะที่หน่วยงานเอกชนก็มักดำเนินงานเพื่อผลประโยชน์ของหน่วยงานและผู้มีส่วนได้เสีย (Stakeholders) โดยตรง เช่น ผู้ถือหุ้น เท่านั้น ช่วงต้นศตวรรษที่ 20 จึงเกิดหน่วยงานที่เรียกว่า องค์การสาธารณประโยชน์ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ได้รับการรับรองตามกฎหมาย ดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆ ในสังคมตั้งแต่ระดับโลกไปจนถึงระดับท้องถิ่น อย่างไรก็ตาม การดำเนินงานขององค์กรพัฒนาเอกชนมักต้องพึ่งพาแหล่งทุนจากภายนอก ในลักษะต่างๆ เช่น การรับบริจาค การขอการสนับสนุนแบบให้เปล่า ทำให้ประสบปัญหาความต่อเนื่องในการดำเนินงาน ข้อจำกัดในการขยายขอบเขตและงาน และความยั่งยืนขององค์กร นี่เป็นข้อจำกัดที่เป็นจุดกำเนิดของกิจการเพื่อสังคม ที่ดำเนินงานเพื่อเป้าหมายทางสังคมหรือสิ่งแวดล้อม โดยมีแผนธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้เพื่อหล่อเลี้ยงการดำเนินงานและขยายงานให้เต็มศักยภาพ

รัฐบาลของหลากหลายประเทศเห็นความสำคัญของกิจการเพื่อสังคม และมีนโยบายในการสนับสนุนกิจการเพื่อสังคม เช่นในประเทศอังกฤษ มีการก่อตั้งหน่วยงานชื่อ Office of the Third Sector (OTS) ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของสำนักคณะรัฐมนตรี โดย OTS มีนโยบายหลัก คือการผลักดันและสนับสนุนกิจการเพื่อสังคม และยังช่วยเหลือในด้านการให้ข้อมูลและคำปรึกษาที่ดี การเข้าถึงแหล่งเงินทุน และลดอุปสรรคในการทำงานร่วมกับภาคธุรกิจเอกชน นอกจากนี้ยังมีคณะทำงานเฉพาะกิจ Social Investment Task Force ซึ่งทำหน้าที่ให้คำแนะนำแก่รัฐบาลในเรื่องการขยายตัวของกองทุน Phoenix การจัดตั้งการให้เครดิตทางภาษีของการลงทุนเพื่อชุมชน การให้ความช่วยเหลือของภาครัฐสู่กองทุนร่วมพัฒนาชุมชน และการสนับสนุนการพัฒนาทางด้านการเงินแก่ชุมชน

การช่วยเหลือทางสังคมขององค์กรและธุรกิจต่างๆ

10

เมื่อพูดถึงจริยธรรม คนส่วนใหญ่มักจะมองเป็นเรื่องภายในองค์กร แต่ในสภาพที่กว้างกว่าธุรกิจมีส่วนรับผิดชอบต่อสังคมในการดำเนินธุรกิจด้วย ซึ่งหมายรวมถึงลูกค้า ผู้ใช้บริการ คู่ค้า หน่วยงานของรัฐตลอดจนสังคมและชุมชน ธุรกิจจึงเป็นหน่วยเล็ก ๆ หน่วยหนึ่งของสังคม มีการสร้างงาน สร้างความเจริญ พัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคม รัฐนำภาษีประเภทต่าง ๆ จากภาคธุรกิจไปพัฒนาสังคม ธุรกิจจึงต้องมีจริยธรรมและจะต้องดูแลไม่ให้ธุรกิจเสียหายหรือมีผลกระทบต่อสังคมและผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ในหลายประเด็นปัญหาหรือรูปแบบการดำเนินงานของธุรกิจ การดำเนินขององค์กรธุรกิจอยู่นอกเหนือข้อบังคับทางกฎหมาย เช่น การผลิตสินค้าที่ดีมีคุณภาพ การส่งเสริมการจ้างแรงงาน ตลอดจนการดูแลป้องกันสภาพแวดล้อมที่นอกเหนือจากข้อบังคับทางกฎหมาย ให้การช่วยเหลือในกิจกรรมด้านการกุศลสาธารณประโยชน์ เป็นต้น

ในเบื้องต้นองค์กรธุรกิจทุกองค์กรจะต้องคำนึงถึงความอยู่รอดขององค์กร ในเชิงเศรษฐกิจองค์กรจะต้องมีกำไรจากการขายสินค้าหรือบริการ สามารถผลิตสินค้าตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ในระดับนี้องค์กรต้องมีการลงทุน มีการจัดหาวัตถุดิบ เทคโนโลยี ตลอดจนการกำหนดยุทธศาสตร์ในด้านการตลาดการบริหารและการจัดการ ซึ่งความอยู่รอดในเบื้องต้นจะทำให้ธุรกิจสามารถเจริญเติบโต และคิดจะทำในสิ่งที่นอกเหนือจากความอยู่รอดขององค์กรต่อไปได้ ในส่วนของการดำเนินธุรกิจที่สูงขึ้นอีกระดับหนึ่ง องค์กรธุรกิจจะต้องคำนึงถึงการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ทางสังคม เช่น ระเบียบกฎหมายข้อบังคับ ต้องชำระภาษีอากร หรือข้อกำหนดอื่นที่สังคมกำหนดเพื่อปฏิบัติตนเป็นพลเมืองดีแสดงออกถึงความรับผิดชอบตามที่กฎหมายกำหนดด้วย ความรับผิดชอบด้านจริยธรรม จะต้องดำเนินการควบคู่กับทางกฎหมาย ตามที่กล่าวมาแล้วว่ากฎหมายเป็นกติกาพื้นฐานเบื้องต้น ซึ่งองค์กรธุรกิจจะต้องปฏิบัติตามแต่สังคมมีความคาดหวังต่อองค์กรธุรกิจที่จะให้ผู้ประกอบการมีจริยธรรมในการประกอบ ดูแลด้านคุณภาพสินค้า ตลอดจนการช่วยเหลือและการแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อม ฯลฯ ด้วย สำหรับความรับผิดชอบด้านการกุศลและสาธารณประโยชน์นั้น โดยปกติในทุกสังคมจะมีการแสดงออกของคนในสังคมด้านการกุศลและสาธารณประโยชน์ ขึ้นอยู่กับความพร้อมและจิตสำนึกพื้นฐาน ทั้งนี้อาจจะเป็นลัทธิ ศาสนา ความเชื่อ ตลอดจนแนวคิดและทัศนคติของแต่ละบุคคล มีการทำบุญ บริจาคทาน ช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก ฯลฯ โดยไม่มีหลักเกณฑ์ทางสังคมใด ๆ กำหนดไว้ เป็นการกระทำด้วยความพึงพอใจ ในการประกอบการธุรกิจการแสดงออกในการช่วยเหลือด้านกุศลและสาธารณประโยชน์ เป็นการแสดงถึงความมีจริยธรรมในการช่วยเหลือสังคมในระดับหนึ่ง เมื่อองค์กรมีความแข็งแกร่งมีกิจกรรมที่ดีที่จะอยู่รอดได้ การคืนกำไรสู่สังคมในการช่วยเหลือด้านการกุศลและสาธารณประโยชน์จะกลายเป็นแบบอย่างให้องค์กรอื่นปฏิบัติตาม เช่น การไฟฟ้าฝ่ายผลิตจัดสัมมนาให้ผู้สนใจเข้าร่วมงานโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เป็นการคืนกำไรสู่สังคม และเป็นความพึงพอใจและจิตสำนึกขององค์กร ที่สามารถจะวัดถึงความมีจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจได้

พัฒนาธุรกิจจากเรื่องพื้นฐานง่ายๆ

ปัจจุบันมีแผนธุรกิจใหม่ๆเกิดขึ้นมามากมายและหลายๆ ครั้งก็พบว่ารูปแบบธุรกิจ หรือแผนการตลาดใหม่ๆ นั้นมีมากจนไม่รู้จะทดลองธุรกิจไหนดี เพราะการทำธุรกิจนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะสามารถลองผิดลองลองถูกได้ เมื่อเกิดข้อผิดพลาดแล้วนั้นอาจทำให้เสียหายเป็นอย่างมาก ดังนั้นจะแนะนำการทำธุรกิจสามารถนำมาปรับใช้ให้เข้ากับสถานการณ์มากขึ้น โดยการสร้างสิ่งต่างๆดังนี้

แรงบันดาลใจจากธุรกิจรอบข้าง โดยการพัฒนาธุรกิจของตัวเองและศึกษาธุรกิจว่ามีอะไรที่น่าสนใจและสามารถนำมาปรับใช้กับธุรกิจของเราเองได้บ้าง และผลที่ตามมาเมื่อนำมาปรับใช้กับธุรกิจตัวเองว่ามีความคุ้มค่ามากน้อยแค่ไหน

การใส่ใจสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ถือเป็นเรื่องแรกที่ไม่ควรมองห้ามเพราะการใส่ใจเป็นสิ่งที่ลูกค้าต้องการ เพราะคนส่วนใหญ่นั้นมักเลือกที่จะเดาใจลูกค้ากันเอาเอง ฉะนั้นวิธีที่ง่ายและได้ผลลัพธ์ คือ การรับฟังลูกค้าให้มากขึ้น เพื่อรวบรวมข้อมูลและนำมาประเมินเพื่อพัฒนาสินค้า และการบริการแต่ละด้านให้ตรงจุดได้มากขึ้น

การใส่ใจคนในทีม นอกจากการเอาใจใส่ลูกค้าแล้วจะต้องเอาใจใส่สมาชิกในทีมด้วย เพราะการทำงานเป็นทีมนั้นจะทำให้เกิดไอเดียใหม่ๆขึ้น ในขณะที่หลายคนเลือกที่จะเชื่อมั่นความคิดตัวเองเพราะคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของกิจการ การคิดแบบนี้เป็นการปิดกั้นความคิดเห็นดีๆ จากพนักงานของตัวเองแล้ว ยังเป็นการทำให้พนักงานนั้นรู้สึกไม่ดี ไม่มีกำลังใจจะทำงาน และเลือกที่จะไม่เสนอข้อเสนอแนะดีๆ

 เปิดมุมมองให้กว้าง โดยการเข้าอบรมสัมมนาด้านธุรกิจ หรือซื้อหนังสือมานั่งศึกษานั้นเป็นเรื่องที่ไม่คุ้มค่า แต่วิธีเหล่านี้เป็นหนทางในการหาไอเดีย และแรงบันดาลใจในการพัฒนาธุรกิจได้เป็นอย่างดี เพราะสิ่งเหล่านี้คือการเรียนรู้จากที่ประสบความสำเร็จมา

ที่ปรึกษาธุรกิจ เพราะการทำธุรกิจคนเดียวแทบจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะเราไม่ได้มีความสามารถในการทำธุรกิจได้ครบทุกด้าน การมองหาที่ปรึกษาทางธุรกิจถือเป็นอีกทางหนึ่งที่จะช่วยพัฒนาธุรกิจ และผ่านพ้นอุปสรรคได้ อย่างเช่น ที่ปรึกษาทางด้านกฎหมาย หรือด้านการบัญชี

หากมีพื้นฐานต่างๆเหล่านี้ก็จะช่วยให้การทำธุรกิจประสบความสำเร็จได้เป็นอย่างมาก

แนะนำให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมายและทั่วไป

แนะนำให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมายและก็ทั่วไป

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 255 ได้บัญญัติให้องค์กรอัยการเป็นองค์กรอื่นตามรัฐธรรมนูญ โดยรับรองความเป็นอิสระในการพิจารณาสั่งคดีของพนักงานอัยการ และให้องค์กรอัยการมีหน่วยงานธุรการที่เป็นอิสระ ในการบริหารดูแลการ งบประมาณและการดำเนินการอื่น ทั้งนี้ เพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของอัยการที่ต้องให้ความเป็นธรรมอย่างเป็นกลาง และจะต้องดำเนินคดีกับผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองด้วย สำนักงานอัยการสูงสุด มีอัยการสูงสุดเป็นผู้ บังคับบัญชา การเข้าดำรงตำแหน่งและพ้นจากตำแหน่งของอัยการสูงสุดต้องเป็นไปตามมติคณะกรรมการอัยการและได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภา ในต่างจังหวัดให้มีสำนักงานอัยการภาค 1 – 9 เป็นหน่วยงานบังคับบัญชากำกับดูแล และมีสำนักงานอัยการจังหวัดประจำศาลทุกจังหวัด ทั่วประเทศ

อำนาจหน้าที่อำนวยความยุติธรรมทางอาญา ได้แก่ บริหารงานยุติธรรม เพื่อให้เกิดความสงบเรียบร้อยและปลอด ภัย ในชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สิน โดยพนักงานอัยการจะเป็นผู้พิจารณาพยานหลักฐานในสำนวนการสอบสวน ตลอดทั้งดำเนินคดีอาญาในฐานะทนายแผ่นดินรักษาผลประโยชน์ของรัฐ ได้แก่ การพิจารณาและให้คำปรึกษาในด้านกฎหมายแก่ส่วนราชการ และหน่วยงานต่าง ๆ ของรัฐ ตรวจร่างสัญญา ตอบข้อหารือ ตลอดทั้งดำเนินคดีแพ่งในฐานะทนายความแผ่นดินแทนรัฐบาล หน่วยงานของรัฐที่เป็นนิติบุคคล คุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน ได้แก่ การคุ้มครองสิทธิและรักษาผลประโยชน์ของประชาชน ที่กฎหมายกำหนดไว้ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของพนักงานอัยการ เช่น การให้คำปรึกษาทางกฎหมายการช่วยเหลือทางอรรถคดีการไกล่เกลี่ยประนอมข้อพิพาททำนิติกรรมสัญญาตั้งผู้จัดการมรดกตั้งผู้ปกครองการขอรับบุตรบุญธรรมการขอให้ศาลสั่งให้เป็นบุคคลสาบสูญการขอให้ศาลสั่งให้เป็นบุคคลไร้ความสามารถการขอให้ศาลสั่งให้เป็นบุคคลเสมือนไร้ความสามารถการคุ้มครองสิทธิเด็กและสถาบันครอบครัวปรึกษาปัญหากฎหมายเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคเผยแพร่อบรมให้ความรู้ทางกฎหมายต่างๆ แก่ประชาชน อับเดตที่อยู่อีเมลสำรองและคำถามเพื่อความปลอดภัยของคุณ การดำเนินการดังกล่าวจะช่วยให้คุณสามารถกู้คืนบัญชีของคุณหากคุณไม่สามารถเข้าถึงบัญชีได้ ตรวจสอบว่าคุณสามารถเข้าถึงที่อยู่อีเมลที่แสดงเป็นที่อยู่อีเมลสำรองและคำถามเพื่อความปลอดภัยของคุณจดจำได้ง่ายสำหรับคุณ แต่ผู้อื่นจะเดาได้ยาก